ไปเรียนแค่เดือนเดียวจะได้อะไรมั้ย
ส่งไปเรียนภาษากับเพื่อนด้วยจะได้ภาษามั้ย
ไม่ได้อยู่กับ homestay จะดีมั้ย
คำถามสุดคลาสสิกจากผู้ปกครอง ลองมาดูมุมมองของน้องๆที่ไปเรียนจริงๆบ้างว่าเขามีความเห็นอย่างไรกับคำถามเหล่านี้ เริ่มค่ะ !!
หลังจากเรียนจบคอร์สระยะเวลา 1 เดือนแล้ว เป็นอย่างไรบ้างคะ ทักษะการพูด การฟังดีขึ้นมั้ย แล้วทักษะด้านการอ่านเขียนเป็นอย่างไร สไตล์การเรียนการสอนของที่ WSE เอื้อต่อการพัฒนาในแต่ละทักษะมั้ย อย่างไร ลองแชร์ประสบการณ์ให้เพื่อนทราบหน่อย
ขอเกริ่นก่อนเลยว่านิวไปเรียนหนึ่งเดือนครั้งนี้คือนิวตั้งเป้าไปก่อนเลยว่านิวอยากได้ทักษะการฟังและพูด แล้วสไตล์การสอนของที่ WSE นี่คือตรงกับความต้องการนิวมากเลยเพราะว่าหนึ่งเลยแต่ละคลาสจะมีนักเรียนไม่เกิน 15 คน ซึ่งทำให้นักเรียนกับอาจาร์ย์จะใกล้ชิดกันสามารถพูดคุยถามตอบได้อย่างทั่วถึง เพราะที่ WSE อาจาร์ยจะคอยพูดคุบกับเราตลอดในห้องเรียนทำให้การเรียนไม่เหมือนการเรียนแต่เป็นเหมือนการพบปะพูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้ที่สอดแทรกบทเรียนลงไปในทุกๆนาทีเลยค่ะ แล้วพอหลังเรียนจบหนึ่งเดือนแล้วถ้าถามนิวว่าได้อะไรไหม นิวอยากบอกว่าได้มากจริงๆค่ะ อย่างตัวนิวไม่เคยเรียนนานาชาติมาเลย นิวก็จะมีปัญหาเรื่องไม่ค่อยมีความมั่นใจไม่กล้าพูดกับคนต่างชาติ แล้วพอเราไม่กล้าพูดแล้วเนี่ยนิวก็รู้สึกว่ามันก็ทำให้นิวไม่ค่อยได้ฟังไปด้วยก็เพราะไม่ค่อยกล้าพูดกับใคร แต่หลังจากกลับมาความรู้สึกตรงนี้ก็หายไปเลยค่ะ เพราะระหว่างหนึ่งเดือนที่นิวอยุ่อังกฤษทุกๆวันนิวต้องได้ใช้ภาษาอังกฤษในการพูดตลอดเวลา สถานการณณ์มันบีบบังคับให้เราต้องพูด ให้เราต้องพยายามจนทำให้ความกลัวของนิวค่อยๆหมดไป ซึ่งรู้สึกดีมากๆค่ะ ส่วนตัวอ่านและเขียนเนี่ยนิวคิดว่าอาจจะได้กลับบมาบ้างแต่ถ้าอยากจะได้เยอะกว่านี้นิวก็แนะนำว่าให้อยู่ต่ออีกสักหน่อยน่าจะได้มากกว่านิว แต่ก็ไม่ใช่ว่าได้น้อยขนาดนั้นนะคะคือนิวคิดวว่าการอ่านและเขียนเป็นสิ่งที่พอกพูนได้เรื่อยๆไม่มีที่สิ้นสุด ซึ่งนิวเลยคิดว่ายิ่งคุณอยู่นานคุณก็รู้เยอะมากขึ้นมากขึ้น
แม้จะไปเรียนเดือนเดียวแต่บอกเลยว่าได้แน่นอนค่ะ ส่วนตัวนิวคิดว่าถึงจะไปแค่หนึ่งวันสองวันหรือสามวันแค่ได้ไปก็เท่ากับว่าคุณได้ภาษาใหม่ๆได้อะไรใหม่ติดตัวกลับบ้านมาแน่นอน เพราะตอนนิวไปนิวก็ได้อะไรใหม่ๆมาตั้งแต่วันแรกเลย คือทุกๆสถานที่ทุกๆเวลาเราต้องเจอคนใหม่ๆที่ใหม่ๆคือทุกที่เป็นเหมือนกับห้องเรียนของคุณไปเลย คุณจะได้ฝึกการใช้ภาษาเพื่อสื่อสารกับผู้คนและดีลกับสถานการณ์นั้นๆ ซึ่งเท่ากับว่าแค่คุณคิดที่จะไป ไม่ว่าเวลาจะสั้นแค่ไหนก็เท่ากับว่าคุณได้แน่นอน ซึ่งการที่นิวตัดสินใจไปเรียนแค่หนึ่งเดือน เป็นอะไรที่คุ้มค่าเกินความคาดหมายมาก แล้วถ้ามีเวลาอีกนิวก็อยากจะอยู่ต่อให้นานกว่านี้ แต่เนื่องด้วยต้องกลับมาจัดการสอบให้ทันก็เลยได้อยู่แค่เดือนเดียวแต่ก็เป็นอะไรที่คุ้มค่ามากจริงๆค่ะ
แล้วการหาที่พักอยู่เองแล้วมีเพื่อนไปด้วยแบบนี้ เราได้มีวิธีการพัฒนาภาษาอย่างไรบ้างคะ
จากประสบการ์ณส่วนตัวนิวคิดวว่าดีนะคะ เพราะว่าอย่างตอนนิวไปเพื่อนในคลาสบางคนที่เขาอยู่โฮส เขาก็มาบ่นข้อเสียของโฮสต่างๆนานาที่พวกเขาพบเจอ เช่น โฮสทำอาหารไม่อร่อย โฮสกฏระเบียบเข้มเกิน โฮสไม่สนใจเท่าที่ควร ต่างๆนานา แต่โฮสที่ดีถูกใจเพื่อนๆที่นิวรู้จักก็มีค่ะ แต่นิวก็คิดว่านิวไม่อยากเสี่ยงไปเจอโฮสที่เคมีไม่ถูกกัน บวกกับว่านิวไปกับเพื่อนเลยคิดว่าเราควรจะหาบ้านอยู่เองแล้วหารกันซึ่งราคาอาจจะเเพงกว่าอยู่กับโฮสแต่ได้ความสบายใจ ก็โอเคค่ะ แต่ข้อเสียคือเราก็ต้องใช้ความละเอียดของเราในการหาบ้านพักเองซึ่งเราควรหาดีๆดูให้เอียด เพื่อไม่ให้มีอะไรผิดพลาด
การพัฒนาภาษาของนิวแบบมีเพื่อนไปด้วยเนี่ย เพื่อนไม่ใช่ปัญหาของนิวเลยค่ะ นิวมองว่าเพื่อนคือคนที่คอยส่งเสริมนิวในการพัฒนาภาษาด้วยซ้ำ นิวก็จะบอกกับกับเพื่อนก่อนเลยว่า ถ้าเราไปด้วยกันเราก็ต้องช่วยกันเรียนนะ พยายามเปลี่ยนภาษาที่เราพูดจากไทยเราก็มาพูดภาษาอังกฤษกัน ห้ามพูดไทยใส่กัน ซึ่งจริงๆแล้วเพื่อนไม่ได้เป็นปัญหาต่อการที่นิวไปเรียนภาษาเลย นิวมองว่าดีซะอีกที่มีเพื่อนเพราะจะทำให้เราสามารถฝึกภาษาได้บ่อยขึ้นและมีความกล้ามากขึ้นที่จะคุยกับผู้คนเพราะเราก็จะมีเพื่อนเป็นเหมือนคู่ซ้อมก่อนเราลงสนามจริง เพราะเราตกลงกันว่าเราจะไม่ใช้ภาษาไทยในการสื่อสารกัน มันเลยทำให้นิวพัฒนาภาษาแบบบไม่เกร็งเครียดจนเกินไปจนทำให้เป็นความเคยชินแล้วเราก็จะกล้าใช้ภาษามากขึ้น ซึ่งวิธีนี้นิวว่าง่ายยนะค่ะแแต่แค่ต้องทำให้ได้ แต่ถ้าเราตั้งใจจริงๆนิวว่าอะไรก็เป็นไปได้ค่ะ ขึ้นอยู่กับความตั้งใจด้วย
